Shopping Cart
Tunnel Layer 2

Tunnel Layer 2 คือเทคโนโลยีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่ช่วยให้แต่ละสาขาขององค์กรเหมือนอยู่ในเครือข่ายเดียวกัน แม้อยู่กันคนละสถานที่ สำหรับองค์กรที่ใช้ SpeedFusion จาก Peplink จะสามารถสร้าง Layer 2 Tunnel ได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพสูง โดยมีความปลอดภัยและเสถียร เหมาะกับงานที่ต้องการ Broadcast, Multicast หรือโปรโตคอล LAN แบบเดิมที่ Layer 3 ทั่วไปไม่รองรับ

Tunnel Layer 2 คืออะไร?

Layer 2 Tunnel หรือ L2TP คือเทคโนโลยีที่เชื่อมโยงเครือข่ายสองฝั่งให้เหมือนนั่งอยู่ในวง LAN เดียวกัน ไม่ว่าจะอยู่คนละสาขาหรือข้ามประเทศ เหมาะกับการใช้งานเช่น

  • แชร์ไฟล์แบบ SMB
  • Print Server, IP Phone
  • ระบบ ERP, POS หรือแอปพลิเคชันเก่าที่ต้องการ Broadcast
  • การทำ VLAN ข้ามไซต์

SpeedFusion กับการสร้าง Tunnel Layer 2

SpeedFusion เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Peplink ที่ออกแบบมาเพื่อ SD-WAN, VPN Bonding และ Multisite Connectivity โดยจุดเด่นคือความเสถียรและการรวมหลายลิงก์อินเทอร์เน็ตเข้าด้วยกัน ทำให้การสร้าง Tunnel Layer 2 มีความแตกต่างดังนี้

  • ทำงานได้ทั้ง MPLS, 4G, 5G, Fiber หรือ Internet ทั่วไป
  • รวมหลายเส้นสัญญาณ เพิ่มเสถียรภาพ
  • สร้าง VPN แบบ Layer 2 (L2TP over SpeedFusion) ได้ทันที
  • รองรับ VLAN และ Multicast

ขั้นตอนการสร้าง Tunnel Layer 2 ด้วย SpeedFusion

1. เตรียมอุปกรณ์ Peplink

เลือกอุปกรณ์รุ่นที่รองรับ SpeedFusion (เช่น Balance, MAX, MBX, FusionHub)

2. ตั้งค่า SpeedFusion Profile

เข้าไปที่หน้า SpeedFusion ใน Web Admin

  • กำหนดชื่อ Profile
  • เลือก PepVPN หรือ SpeedFusion VPN

3. ตั้งค่า Layer 2 Tunnel

  • เลือก “Layer 2 SpeedFusion” หรือ “L2 Bridge”
  • กำหนด Interface ที่จะเชื่อม Layer 2
  • ระบุ VLAN (ถ้ามี)
  • ตั้งค่า Subnet ให้ตรงกัน

4. ทดสอบและตรวจสอบการเชื่อมต่อ

เมื่อเชื่อมต่อเสร็จ อุปกรณ์ทั้งสองฝั่งจะเห็นกันเหมือนอยู่ในวง LAN เดียวกัน สามารถ Broadcast, Multicast และใช้งานระบบเครือข่ายได้เต็มรูปแบบ

ข้อดีของการสร้าง Tunnel Layer 2 ด้วย SpeedFusion

  • ใช้งานโปรโตคอลเดิมได้ครบ (SMB, NetBIOS, Printer, IP Phone)
  • สร้าง VLAN ข้ามไซต์ได้จริง
  • เสถียร แม้ลิงก์ Internet จะสลับหรือมีปัญหา
  • ปลอดภัย ด้วยการเข้ารหัสข้อมูล
  • ลดปัญหาการตั้งค่า Routing ซับซ้อน

ใช้งานจริงในองค์กรแบบไหนบ้าง?

  • โรงงาน ที่ต้องใช้ SCADA หรือ Broadcast ข้ามสาขา
  • สาขาธนาคาร ที่ต้องการเชื่อมระบบหลักและเครื่องพิมพ์
  • ร้านค้าปลีกหลายสาขา ที่ต้องแชร์ระบบ POS
  • สำนักงาน ที่ต้องการรวม Voice, Video, Data ให้เหมือนนั่งในออฟฟิศเดียวกัน

คำถามที่พบบ่อย (Q&A)

Q: Tunnel Layer 2 ต่างจาก Layer 3 ยังไง?

A: Layer 2 จะเหมือนอยู่ในวง LAN เดียวกัน ใช้ Broadcast/Multicast ได้ ส่วน Layer 3 คือเชื่อมต่อแค่ระดับ IP เท่านั้น

Q: อุปกรณ์ Peplink ทุกรุ่นรองรับ Layer 2 Tunnel ไหม?

A: ไม่ใช่ทุกรุ่น ต้องตรวจสอบว่ารองรับ SpeedFusion และ Layer 2 Bridging

Q: ต้องใช้ Internet ความเร็วสูงหรือไม่?

A: ยิ่งอินเทอร์เน็ตเร็ว ยิ่งใช้งานได้ลื่นไหล แต่อาจ Bond หลายลิงก์เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ

สรุป

การสร้าง Tunnel Layer 2 ผ่าน SpeedFusion คือทางเลือกที่เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการขยายเครือข่ายเสมือนจริงแบบไม่มีข้อจำกัดเรื่องสถานที่ ทั้งยังรองรับการทำ VLAN, Multicast และ Broadcast ได้ครบถ้วน พร้อมเพิ่มความปลอดภัยและเสถียรภาพในการเชื่อมต่อ ขยายธุรกิจได้อย่างไร้รอยต่อ

ชอบไหม? แชร์ให้เพื่อนๆ ของคุณดู